หากพูดถึงไม้เศรษฐกิจของไทย ไม้ยางพาราก็นับว่าเป็นหนึ่งในไม้ที่มีการผลิต และ ส่งออกเป็นจำนวนมาก เนื่องจากไม้ยางพาราเป็นไม้ยอดนิยมที่สามารถปลูกได้ง่าย อีกทั้งยังมีคุณสมบัติทั้งในเรื่องของความทนทาน แข็งแรง อีกทั้งยังสามารถนำไปแปรรูปได้หลากหลาย เลยทำให้ไม้ยางพารากลายเป็นสินค้าส่งออกยอดนิยม ซึ่งมีหลายๆคนที่อยากจะทำการส่งออก หรือ อยากจะรู้กระบวนการในการส่งออกแล้วว่า การส่งออกไม้ยางพารา จะต้องมีขั้นตอนในการเตรียมการอะไรบ้าง บทความนี้เราจะมาเล่าให้ฟัง แล้วคุณจะรู้ว่าการส่งออกไม้ยางไม่ยากอย่างที่คุณคิด
มารู้จักนิยามของไม้กันก่อน
ก่อนอื่นเรามาพูดถึงความหมายของไม้ให้เข้าใจตรงกันเสียก่อน “ ไม้ ” เป็นวัสดุชนิดหนึ่งที่มาจากธรรมชาติ มาจากส่วนของลำต้นของต้นไม้ สามารถแบ่งได้หลากหลายชนิด แต่ถ้าหากแบ่งตามเนื้อไม้จะสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด คือ ไม้เนื้ออ่อน และ ไม้เนื้อแข็ง ซึ่งไม้ในที่นี้รวมตั้งแต่ป่าไม้(แต่ไม่รวมพวกไม้บางชนิดที่เป็นไม้เลื้อย เศษไม้) จนถึงไม้แปรรูป ที่อยู่ในลักษณะของแท่ง ท่อน หรือ รูปทรงอื่นๆ
ส่วนนิยามของ ” ไม้ยางพารา ” เป็นไม้เนื้ออ่อน ที่มีเนื้อไม้สีค่อนข้างอ่อน ง่ายต่อการย้อมสี อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบา เนื้อไม้ค่อนข้างแน่น ละเอียด ถึงจะเป็นไม้เนื้ออ่อนแต่ในเรื่องของความแข็งแรง ทนทานถึงว่าสามารถนำไปใช้งานได้ทนทานมากกว่าไม้เนื้อแข็งบางชนิด อีกทั้งยังมีตาไม้น้อย เนื้อไม้ค่อนข้างสวย ทำให้ไม้ยางพาราถูกนำไปเปรียบกับไม้สัก ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น “ไม้สักขาว” ที่มีคุณสมบัติค่อนข้างใกล้เคียงกับไม้สัก แต่มีราคาที่ถูกกว่ามาก หาได้ง่ายกว่ามาก อีกทั้งยังสามารถนำไปแปรรูปได้หลากหลายอีกด้วย
ไม้ยางพาราจัดอยู่ในไม้ประเภทไหน?
ในการส่งออก จะต้องทำการแยกประเภทของไม้ให้ชัดเจน ซึ่งเราจะขอแบ่งไม้ในการส่งออกเป็น 2 แบบ คือ ไม้แปรรูป (ไม้ที่ผ่านกระบวนการต่างๆในการเปลี่ยนองค์ประกอบ รูปแบบ) และ ไม้อัด (ไม้แบบ MDF เป็นการนำเศษไม้มาอัดเข้าด้วยกาว)
- ไม้อัด เป็นไม้แบบ MDF (Medium Density Fiber Board) เป็นการนำไม้ เศษไม้มาผ่านกระบวนการในการอัดแรงดันสูงด้วยความร้อน และ ทำการยึดให้เป็นเนื้อเดียวกันด้วยกาว ทำให้ผิวของไม้เรียบเสมอกัน ไม่เป็นขุย มีราคาถูกแต่ไม่ทนทานเท่าไม้แปรรูป
- ไม้แปรรูป ผู้ที่ผลิตไม้ประเภทนี้จะเรียกโรงงานในการผลิตว่า “โรงเลื่อย” ซึ่งสามารถนำไม้ไปแปรรูปเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การใช้งานให้แก่ไม้ ตั้งแต่การนำไม้ท่อนมาผ่านการเลื่อยเป็นไซต์ต่างๆ , การอัดน้ำยา อบแห้งไม้ และ กระบวนการอื่นๆ
ไม้ยางพาราที่ส่งออกจะเป็นรูปแบบของ ไม้อัด และ ไม้ยางพาราแปรรูป ซึ่งไม้ยางพาราถูกจัดว่าเป็นไม้ที่ได้รับอนุญาตในการส่งออก แบบไม่จำกัดปริมาณ เนื่องจากไม่ใช่ไม้ที่อยู่ในการควบคุม หรือ เป็นไม้สงวน ทำให้สามารถผลิต และ ส่งออกได้จำนวนมากนั้นเอง
การส่งออกไม้ยางพารา ต้องทำอย่างไรบ้าง?
ถึงแม้ว่าจะสามารถส่งออกไม้ยางพาราได้แบบไม่จำกัดปริมาณ แต่ถ้าหากคุณต้องการจะส่งออกไม้ยางพารา คุณจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดในการส่งออกไม้ ซึ่งจะต้องเตรียมเอกสารในการในการยื่น ในการทำการส่งออก โดยเอกสารที่คุณจะต้องเตรียมมีดังต่อไปนี้
- หนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน (โฉนดที่ดิน) ของที่ปลูกไม้ยางพารา หรือ หนังสือรับรองการใช้ที่ดิน (นส.3ก) กรณีที่ไม่ได้เป็นเจ้าของแต่เข้าที่ดินในการประกอบกิจการ
- หนังสือรับรองการอัดน้ำยา หรือ อบแห้งไม้ที่ส่งออกจากโรงงาน (หนังสือรับรองการแปรรูป)
- บัญชีของสินค้า ว่ามีสินค้าอะไรบ้าง จำนวนเท่าไหร่
- สัญญาซื้อขายระหว่างเจ้าของสวนยางพาราและผู้ส่งออก กรณีที่ทำการรับซื้อไม้
- หนังสือจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ที่รับรองว่าที่ดินที่ใช้ได้จดทะเบียนเป็นสวนไม้ยางพารา หรือ โรงงานผลิต (อย่างใดอย่างหนึ่ง)
- ใบอนุญาตประกอบกิจการ (รง.4) กรณีเป็นโรงงานผลิต
เมื่อคุณเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว ไม่เพียงแค่ต้องเตรียมเอกสารเท่านั้น จากนั้นคุณจะต้องดำเนินการในการขออนุญาตส่งออกสินค้าเสียก่อน คุณจะสามารถส่งออกไม้ยางพาราได้ก็ต่อเมื่อคุณได้ส่งหนังสือคำร้องการขอส่งออก และ หนังสือได้รับการอนุมัติแล้ว ซึ่งคุณสามารถทำได้ดังขั้นตอนต่อไปนี้ที่เราจะมาบอก
- STEP1 – ผู้ที่จะส่งออกจะต้องทำการยื่นคำร้อง ขออนุญาตทำการแปรรูปไม้ , การตั้งโรงงานแปรรูป รวมถึงการมีไม้ยางพาราไว้ในครอบครองเป็นจำนวนมาก
- STEP2 – จากนั้นผู้ที่จะส่งออกจะต้องจัดทำหนังสือกำกับการไม้แปรรูป ซึ่งจะออกโดยกองการอนุญาต จากกรมป่าไม้
- STEP3 – เมื่อได้หนังสือมาแล้ว ให้ทำการขอใบเบิกทางในการนำไม้แปรรูปเคลื่อนย้าย ซึ่งจะออกโดยกองคุ้มครอง จากกรมป่าไม้
- STEP4 – จากนั้นให้ทำการยื่นคำขอ เพื่อออกหนังสือรับรองจากกรมป่าไม้ เพื่อให้ทำการส่งออกได้ ถ้าหากมีหนังสือจะถือว่าเป็นไม้แปรรูปที่อยู่ในขอบเขตที่ได้รับการอนุญาตให้ส่งออก ซึ่งจะออกโดยกองคุ้มครอง จากกรมป่าไม้
- STEP5 – อีกทั้งคุณยังจะต้องยื่นคำร้อง ในการขออนุญาตส่งออกไม้แปรรูป ไปยังสำนักบริหารการนำเข้าและส่งออก เพื่อให้เขาออกเอกสารในการส่งออกไปต่างประเทศ ซึ่งจะออกโดยกรมการค้าต่างประเทศ (หากไม่มีจะไม่สามารถส่งออกไปยังต่างประเทศได้ บางประเทศที่ค่อนข้างเคร่งถ้าไม่มีก็จะไม่สามารถนำสินค้าเข้าได้ ซึ่งจะโดนทำการตีสินค้ากลับ)
- STEP6 – สุดท้ายจะต้องทำ พิธีการศุลกากร เป็นขั้นตอนในการตรวจเพื่อส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ ทั้งการตรวจเอกสาร การตรวจสินค้า รวมถึงตู้ที่บรรจุสินค้าด้วย ทั้งทางบก ทางเรือ ทางอากาศ ซึ่งออกโดยกรมศุลกากร
- STEP7 – เมื่อได้เอกสารทั้งหมดแล้ว จึงจะสามารถส่งออกสินค้าได้
เพียงเท่านี้คุณก็สามารถส่งออกไม้ยางพารา ไม้แปรรูปอื่นๆ ไปยังต่างประเทศได้แล้ว แต่ถึงแม้จะได้เอกสารในการส่งออก แต่ก็อย่าลืมเรื่องของคุณภาพของไม้ยางพาราที่จะส่งออกไปด้วย โดยเฉพาะไม้ที่ผ่านการแปรรูป อย่างเช่น ไม้พาเลท บางประเทศหากไม่ได้รับการรับรองมาตรฐานที่กำหนดก็จะไม่สามารถนำสินค้าเข้าประเทศได้ เห็นไหมว่าการส่งออกไม้ไม่ยากอย่างที่คิด เพียงแต่ว่ามีข้อจำกัดเพื่อความปลอดภัยของสินค้า และ ผู้บริโภคนั้นเอง
เลือกไม้ยางพารา เลือกไม้MTK WOOD
- โรงงานของเราเป็นโรงไม้ยางที่ให้บริการผลิต และ จำหน่าย ไม้ยางพาราแปรรูป ทั้ง ไม้แผ่นยางพารา ไม้พาเลท ไม้นิ้ว และ ไม้ยางพาราแปรรูปอื่นๆ
- ได้รับมาตรฐานคุณภาพ IPPC จากกรมวิชาการเกษตร
- เปิดให้บริการมายาวนานกว่า 25 ปี
- มีบริการครบวงจร ตั้งแต่การผลิต ไปจนถึงการส่งสินค้าให้ถึงมือท่านอย่างปลอดภัย
“นึกถึงพาเลทไม้ ไม้ยางพาราแปรรูป นึกถึงโรงงาน MTK WOOD”
สามารถติดตาม และดูข้อมูลเพิ่มเติม MTK ได้หลากหลายช่องทางที่
Facebook : MTK เอ็มทีเค
Line : @mtkwood
Tel : 095-654-6551
Email : marketing@mtkwood.com